ไขมันพอกตับ (Fatty liver) เป็นภาวะที่มีไขมันสะสมในเนื้อตับมากเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากการบริโภคและการดูแลสุขภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไป นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือสุขภาพที่ไม่ดีอื่นๆ ที่ส่งผลให้ไขมันสะสมในตับได้
การไขมันพอกในตับในระยะแรกอาจไม่มีอาการหรือมีอาการเบา แต่เมื่อเกิดภาวะที่รุนแรงขึ้นอาจมีอาการเหล่านี้ เช่น ปวดท้องด้านขวาบน หรือความไม่สบายในท้องด้านบน ความเมื่อยล้า หรืออาการอื่นๆ
หากไม่รับรู้อาการไขมันพอกในตับในระยะแรกและไม่ได้รักษาเบื้องต้น อาจเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของเนื้อตับที่เรียกว่า ตับแข็ง (cirrhosis) ซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงมากและมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ
ดังนั้น การรับรู้และรักษาไขมันพอกในตับตั้งแต่ระยะแรกจึงมีความสำคัญ เพื่อป้องกันภาวะที่รุนแรงขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับในอนาคต
การพอกไขมันตับเป็นภาวะที่พบได้ในผู้ที่มีการสะสมไขมันในเนื้อตับมากเกินไป ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับได้ นับว่าเป็นสถานะที่เรียกว่า “Non-alcoholic Fatty Liver Disease (NAFLD)” หรือโรคตับไขมันไม่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคตับแข็งและมะเร็งตับได้ในระยะยาว
สาเหตุของ ไขมันพอกตับ
- โรคอ้วน: ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนมักจะมีความเสี่ยงต่อการพัฒนาไขมันตับ โดยเฉพาะผู้ที่มีไขมันส่วนลดูมสูง (Visceral fat) หรือไขมันที่สะสมอยู่รอบเส้นรอบน้ำตาลเลือด
- โรคเบาหวาน: ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมักมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นไขมันพอกตับ
- การบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม: การบริโภคอาหารที่มีประสิทธิภาพเกินไป เช่น อาหารที่มีไขมันสูงหรืออาหารที่มีน้ำตาลเท่านั้น สามารถทำให้เกิดไขมันพอกตับได้
อันตรายของไขมันพอกตับ
- โรคตับแข็ง: การสะสมไขมันในตับมากพอที่จะทำให้เกิดอาการตับแข็งได้ เกิดจากการอัตราการสร้างสารน้ำตาลและไขมันในตับที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการทำลายเนื้อตับและเป็นตับแข็งในระยะสุดท้าย
- มะเร็งตับ: ไขมันพอกตับอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับได้ โรคไขมันตับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สามารถทำให้เกิดมะเร็งตับได้
การรักษาไขมันพอกตับเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การควบคุมน้ำหนัก และการรักษาโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคเบาหวาน อย่างเป็นทางการ โดยในบางกรณี
อาหารแบบไหนเสี่ยงทำให้เป็นไขมันพอกตับ?
การรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบที่มีความอิ่มและไขมันสูงส่งผลกระทบต่อการสร้างไขมันในตับได้ อาหารที่เสี่ยงทำให้เป็นไขมันพอกตับได้แก่
- อาหารประเภทไขมันไม่ดี: รับประทานอาหารที่มีไขมันไม่ดี เช่น อาหารที่มีมันอิ่มเข้ม เช่น อาหารจากสัตว์ที่อ้วน เนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง เนื้อสัตว์ที่ปรุงแบบทอดหรือทอดน้ำมัน อาหารจากน้ำมันและเครื่องปรุงที่มีไขมันสูง เป็นต้น
- อาหารหวานและน้ำตาล: การรับประทานอาหารหวาน ขนมหวาน น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง อาหารที่มีน้ำตาลที่เร็วและน้ำตาลในผลไม้เข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันในตับ
- อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง: การรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ข้าว ขนมปัง แป้ง มันสำปะหลัง และอาหารที่มีธาตุโซเดียมสูง เช่น อาหารอบและอาหารจากกะหล่ำ มีความเสี่ยงทำให้เกิดไขมันพอกตับ
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์: การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความสัมพันธ์กับการสะสมไขมันในตับ นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ยังส่งผลกระทบต่อการสะสมไขมันในตับด้วย
การควบคุมส่วนสูงในอาหาร รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสมดุล และรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผักผลไม้ อาหารที่มีไขมันไม่เจือปน เสริมด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นไขมันพอกตับได้สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ pass4sures.me