โรคความดันสูง หรือ hypertension เป็นภาวะที่ความดันเลือดในหลอดเลือดมีค่าสูงกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง เมื่อความดันเลือดสูงมากเกินไป อาจเป็นสาเหตุของภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือด และเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยรวม เรามักพูดถึงโรคความดันสูงในผู้ใหญ่มากกว่า แต่มันก็สามารถเกิดขึ้นในผู้ที่อายุน้อยได้เช่นกัน ดังนั้นการระวังและการเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่สูงขึ้น ดังนี้
1. สุขภาพเครียดและระดับความเครียดสูง
การรับความเครียดในระดับสูงอาจเป็นปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันสูงในวัยหนุ่มสาว การปรับเปลี่ยนไปในช่วงวัยรุ่นที่มีความดันสูงสามารถทำให้เกิดภาวะโรคความดันสูงในวัยหนุ่มสาวได้
2. พฤติกรรมการรับประทานอาหารไม่เหมาะสม
การบริโภคอาหารที่มีปริมาณเกลือสูง อาหารที่มีปริมาณไขมันสูง และอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคความดันสูง โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นส่วนหนึ่งของแพทเทิร์นการกินที่ไม่ดี
3. การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายที่เกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่นอาจมีผลต่อการเกิดโรคความดันสูงได้
4. ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะโรคเป็นพื้นฐาน
ภาวะพื้นฐานเช่นโรคไตต้องห้าม โรคหลอดเลือดและโรคอื่น ๆ สามารถทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นได้ในวัยเยาว์
โรคความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อย (หรือ Hypertension in Young Adults) เป็นภาวะที่มีความเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะที่มีอาการร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ, อัมพาต, และภาวะที่เกี่ยวกับหลอดเลือดในสมอง แต่บางครั้งผู้ป่วยอาจไม่มีอาการชัดเจนเลย ซึ่งทำให้มักจะถูกพลาดไปหรือไม่รับรู้ถึงความรุนแรงของโรคได้
สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อยอาจมีหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น การทานอาหารที่มีส่วนผสมของโซเดียมสูง, การอดอาหาร, สุรา, และยาสูบ การเคลื่อนไหวน้อยหรือไม่มีการออกกำลังกาย, การทานอาหารไม่สมดุล, สภาพแวดล้อมที่มีควันบุหรี่, การใช้ยาบางชนิด, และปัจจัยที่เกี่ยวกับพันธุกรรม
การตรวจสอบความดันโลหิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการค้นหาโรคความดันโลหิตสูง โดยควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ แม้ไม่มีอาการ การวัดความดันโลหิตจะช่วยให้รู้ได้ว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหรือไม่ ความดันโลหิตที่สูงกว่ามาตรฐานที่กำหนด (120/80 mmHg) มักจะต้องรับการรักษาหรือการควบคุมเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การวินิจฉัย โรคความดันสูง ในคนอายุน้อย
การวินิจฉัยโรคความดันสูงในคนอายุน้อยจะเหมือนกับการวินิจฉัยในกลุ่มคนทั่วไป โดยมักจะใช้วิธีการตรวจวัดความดันโลหิตเป็นหลัก การวัดความดันโลหิตมีสองค่าหลักคือความดันโลหิตสูงสุด (Systolic Blood Pressure) และความดันโลหิตต่ำสุด (Diastolic Blood Pressure) โดยแบ่งเป็น mmHg (มิลลิเมตรปรอททิเมตรความดัน)
ความดันโลหิตปกติมักจะอยู่ที่ระดับ 120/80 mmHg หรือต่ำกว่านี้ สำหรับผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง มักจะมีค่าความดันโลหิตสูงกว่า 130/80 mmHg โดยอาจมีการตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำหรือสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง หรือมีอาการเบื้องต้นของโรค
นอกจากการวัดความดันโลหิตแล้ว แพทย์อาจสอบถามประวัติการเจ็บป่วย, ประวัติทางสุขภาพ, และประวัติครอบครัวเพื่อประเมินความเสี่ยง นอกจากนี้อาจมีการส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจระดับไขมันในเลือด, ตรวจการทำงานของไต, หรือการตรวจความเค็มในปัสสาวะ เพื่อประเมินความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากโรคความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อย เช่น โรคหัวใจ, อัมพาต, หรือภาวะที่เกี่ยวกับหลอดเลือดในสมอง
ปัจจัยเสี่ยงโรคความดันสูงในคนอายุน้อย
ปัจจัยที่เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อยสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ซึ่งรวมถึง:
พฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสม: การบริโภคอาหารที่มีความเค็มสูง, การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก, การสูบบุหรี่, และการไม่ออกกำลังกายเพียงพอสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้
ปัจจัยที่เกี่ยวกับพันธุกรรม: หากมีประวัติความดันโลหิตสูงในครอบครัว เช่น พ่อแม่หรือญาติโดยตรงที่มีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง อาจทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับบุคคลนั้น ๆ
น้ำหนักที่เกิน: การมีน้ำหนักตัวเกินหรืออ้วนสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้
การตรวจสุขภาพไม่สม่ำเสมอ: การไม่ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ได้รับการตรวจสอบความดันโลหิตอาจทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
ภาวะสุขภาพอื่น ๆ: ภาวะทางสมองเช่น ภาวะซึมเศร้า, ภาวะที่เกี่ยวกับการหายใจ, และโรคต่าง ๆ อื่น ๆ อาจมีผลต่อความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูงด้วย
การรักษาและการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อยควรมุ่งเน้นที่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ไม่เหมาะสมและการควบคุมน้ำหนักตัว รวมทั้งการตรวจสอบความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจจับและรักษาโรคได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ pass4sures.me