เมื่อเป็นมะเร็ง กินอย่างไร

เมื่อเป็นมะเร็ง

เมื่อเป็นมะเร็ง กินอย่างไรการรักษาตนเองเมื่อเป็นมะเร็งมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทและขั้นตอนของโรคมะเร็งที่คุณกำลังเผชิญหน้า แต่ทั้งนี้มีบางขั้นตอนและแนวทางที่สามารถช่วยในการดูแลตัวเองเมื่อเป็นมะเร็ง

  • ปรึกษาแพทย์และทีมบริการสุขภาพ: การรักษามะเร็งควรเริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง. การทำงานร่วมกับทีมบริการสุขภาพรอบตัว เช่น นักโภชนาการ, นักกายภาพบำบัด, และนักจิตวิทยา มีประโยชน์มาก
  • การบริหารจัดการอาหาร: การรักษาตัวเองเมื่อเป็นมะเร็งเริ่มต้นที่การบริหารจัดการอาหารอย่างสมดุล และเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย. การรับประทานอาหารที่รวมถึงผัก, ผลไม้, ธัญพืช และโปรตีนที่มีคุณภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญ
  • รักษาน้ำหล่อเลี้ยง: การรักษาตัวเองจะมีการดูแลทางร่างกายและจิตใจ การน้ำหล่อเลี้ยง หรือการทำกิจกรรมทางน้ำเช่น การว่ายน้ำ, ยากี้, หรือโยคะในน้ำ อาจช่วยในการลดอาการเจ็บปวดและเพิ่มความมีสมาธิ
  • การออกกำลังกาย: การรักษาตัวเองมะเร็งต้องรวมการออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพทั่วๆ ไป การออกกำลังกายที่เหมาะสมสามารถช่วยเสริมสร้างพลังงาน, ลดความเครียด และเพิ่มความพร้อมในการทำงานของระบบภูมิคุ้มครอง.
  • การหมั่นเช็คสุขภาพจิต: การมีภาระจิตวิทยาในช่วงการรักษามะเร็งไม่ได้มีผลกระทบทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบทางจิตวิทยา การพูดคุยกับนักจิตวิทยาหรือการร่วมกิจกรรมทางจิตวิทยาอื่น ๆ อาจช่วยให้คุณรับมือกับความเครียดและกังวล
  • การนอนหลับที่ดี: การรักษาตัวเองเมื่อเป็นมะเร็งต้องให้ความสำคัญกับการนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพ การนอนหลับที่ดีสามารถช่วยในการฟื้นฟูร่างกายและสมอง
  • การรับรองราคาตัว: การเป็นมะเร็งอาจทำให้รู้สึกทางจิตวิทยามีผลกระทบต่อร่างกาย การรับรองราคาตัวและการติดต่อกับผู้รักคุณอาจเป็นส่วนสำคัญของการรักษาตัวเอง

การรักษาตัวเองเมื่อเป็นมะเร็งมีมิติที่หลากหลาย ควรรับการปรึกษาจากทีมแพทย์และทีมบริการสุขภาพเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมต่อสภาพสุขภาพและประสาทของคุณ

ประโยชน์ของการรู้ว่า เมื่อเป็นมะเร็ง

การรู้วิธีการรับประทานอาหารอย่างถูกต้องและดูแลตนเองเมื่อเป็นมะเร็งมีประโยชน์มาก. นี่คือบางประโยชน์ที่สำคัญ:

  1. ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มครอง: การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์, เช่น ผัก, ผลไม้, และอาหารที่รวมถึงไขมันดี, โปรตีน, และคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสม ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มครอง
  2. ช่วยในการรักษาน้ำหนัก: การรักษาน้ำหนักที่เหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งและช่วยในการรักษามะเร็ง
  3. บำรุงพลังงาน: การรักษาตนเองเมื่อเป็นมะเร็งควรรับประทานพลังงานในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อช่วยร่างกายในการต่อสู้กับโรค
  4. ลดอาการข้างเคียงจากการรักษา: บางวันที่ผ่านมา การรักษามะเร็งบางประการอาจทำให้สูญเสียความสามารถในการรับประทานอาหารหรือทำให้ไม่อยากกิน การรับประทานอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยลดอาการนี้
  5. ช่วยในการฟื้นฟูหลังการรักษา: การรักษาตนเองในช่วงหลังการรักษามะเร็งสามารถช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย และการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนมากสามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อที่เสียหาย
  6. ส่งเสริมการรักษา: การรับประทานอาหารที่เหมาะสมช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอในการรับมือกับการรักษา, ลดความเมื่อยล้า และเสริมสร้างภูมิคุ้มครอง
  7. เพิ่มคุณภาพชีวิต: การเลือกทานอาหารที่สร้างความสุข, เช่น อาหารที่คุณชื่นชอบและมีสารอาหารที่สำคัญ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตขณะรักษา

คำแนะนำที่ดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสภาพสุขของคุณ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมต่อสภาพทางร่างกายและปัจจัยทางทฤษฎีสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ pass4sures.me

เมื่อเป็นมะเร็ง

อาหารประเภทใดที่ผู้ป่วยมะเร็งควรหลีกเลี่ยง ?

ผู้ป่วยมะเร็งควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเกี่ยวกับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากประสิทธิภาพของการรักษาและความสบายของผู้ป่วยอาจมีผลมาจากอาหารที่บางประการ ต่อไปนี้คือบางประเภทของอาหารที่ผู้ป่วยมะเร็งมักถูกแนะนำให้หลีกเลี่ยง

  • อาหารที่มีไขมันสูง: การลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารที่ทอด อาหารจานเดียวที่มีน้ำมันมาก และเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูงสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอ้วนและความเสี่ยงต่อมะเร็ง
  • อาหารที่มีน้ำตาลมาก: การลดการบริโภคน้ำตาลมีประโยชน์ในการควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
  • อาหารที่มีเกลือมาก: การลดการบริโภคเกลืออาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง, โดยเฉพาะเป็นทางที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้
  • อาหารที่มีสารเคมีและสารก่อภูมิคุ้มครอง: การลดการบริโภคอาหารที่มีสารเคมีที่อาจเกี่ยวข้องกับการเป็นมะเร็งหรือที่มีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มครอง
  • อาหารที่ไม่สดหรือไม่สุขภาพ: การหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สดหรือไม่สุขภาพ, เช่น อาหารที่ทำจากวัตถุดิบที่ถูกเคมีแปร, อาหารแปรรูปที่มีสารเติมและสารกันบูด
  • อาหารที่มีเนื้อสัตว์ประมาณเครื่องหมายของการย่อย: อาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ที่ประมาณเครื่องหมายของการย่อยเช่น สไตล์หมูกระทะ, อาหารที่ทอด, และอาหารที่มีการใช้น้ำมันมาก
  • อาหารที่มีสารเคมีที่อาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง: อาหารที่มีสารเคมีที่อาจมีผลกระทบต่อการเป็นมะเร็ง เช่น อาหารที่มีสารหล่อเลี้ยงหรือสารควบคุมเจริญเติบโต

เครดิต