การมี ภูมิแพ้ไข่ หรืออารมณ์ต่อการกินไข่มีหลายระดับต่าง ๆ ไปจนถึงอาการที่รุนแรงมาก. ระดับความรุนแรงขึ้นอยู่กับปริมาณของแอลเลอร์เจน (ผู้ทำให้เกิดการตอบสนองภูมิคุ้มกัน) ที่ตัวของบุคคลนั้นสามารถผลิตได้เมื่อมีการสัมผัสกับไข่
นายแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกัน (อัลเลอร์จี) จะสามารถทำการทดสอบเพื่อวินิจฉัยการแพ้ไข่ได้. ปัจจัยที่จะนำมาพิจารณาได้รวมถึง
- อาการของผู้ป่วย: การทดสอบอาจไม่จำเป็นถ้าผู้ป่วยมีอาการที่ชัดเจนหลังจากทานไข่, เช่น ผื่นแดง, ตุ่มน้ำ, แสบร้อน, อาเจียน, หรือปัญหาทางเดินหายใจ
- ประวัติแพ้: ถ้ามีประวัติของการแพ้ไข่ในครอบครัวหรือการแพ้อื่น ๆ, นักแพทย์จะคิดกับการทดสอบ
- ทดสอบ: การทดสอบอาจประกอบด้วยการให้ผู้ป่วยทานไข่ในสภาพทดสอบทางการแพทย์หรือใช้การทดสอบผิวหนังหรือเลือดเพื่อตรวจว่ามีการผลิตแอลเลอร์เจนต่อไข่หรือไม่
การรักษาภูมิแพ้ไข่มักจะใช้วิธีการหลีกเลี่ยงการบริโภคไข่และผลิตภัณฑ์ที่มีไข่ในส่วนผสม ในกรณีที่มีอาการที่รุนแรง การให้ยาต้านอัลเลอร์จีนำเข้า (antihistamines) หรือการให้ยาแบบเป็นเข็ม เช่น อีพีไพนีเฟรน อาจถูกใช้. ในกรณีที่มีความรุนแรงมาก การรักษาด้วยเอพิเนฟรีน (epinephrine) อาจจำเป็น ท่านควรพูดคุยกับนายแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมต่อสุขภาพของท่าน
ภูมิแพ้ไข่ คืออะไร
ภูมิแพ้ไข่คือสภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตกต่ำหรือมีปัญหาในการจับตัวของไข่ และทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยอาการที่ผิดปกติหลังจากที่ได้รับไข่เข้าสู่ร่างกาย. การตอบสนองนี้ทำให้เกิดอาการแพ้ไข่
อาการของภูมิแพ้ไข่สามารถแสดงออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ตามความรุนแรงของการแพ้และปริมาณไข่ที่ตัวของบุคคลนั้นสามารถทนได้ อาการทั่วไปของภูมิแพ้ไข่สามารถเกิดขึ้นได้
- ผื่นแดง: ผิวหนังที่มีไข่สัมผัสอาจเกิดผื่นแดง และตุ่มน้ำหรือตุ่มแดง
- ปัญหาทางเดินอาหาร: การแพ้ไข่อาจทำให้เกิดอาการอาเจียน, ท้องเสีย, หรือแน่นท้อง
- ปัญหาทางเดินหายใจ: บางครั้งอาจมีอาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจ เช่น จาม, น้ำมูกไหล, หรือแน่นหน้าอก
- อาการทางสมองและระบบประสาท: สามารถมีอาการง่วงนอน, ไมเกรน, หรือความเครียดได้
- อาการแพ้ทางผิว: การสัมผัสไข่ทางผิวอาจทำให้เกิดอาการแพ้ผิว, เช่น ผื่นแดง, แสบร้อนหรือบวม
การรักษาภูมิแพ้ไข่จะทำตามคำแนะนำของนายแพทย์ และการหลีกเลี่ยงการบริโภคไข่และผลิตภัณฑ์ที่มีไข่เป็นส่วนผสมสำคัญ ในกรณีที่มีอาการรุนแรง, การให้ยาต้านอัลเลอร์จีนำเข้า (antihistamines) หรือการให้ยาแบบเป็นเข็ม เช่น อีพีไพนีเฟรน อาจถูกใช้. การรักษาด้วยเอพิเนฟรีน (epinephrine) อาจจำเป็นในกรณีที่มีความรุนแรงมาก ท่านควรพูดคุยกับนายแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมต่อสุขภาพของท่าน
การรักษามีอะไรบ้าง
การรักษาภูมิแพ้ไข่มีหลายวิธีและแบ่งออกเป็นหลายแง่ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและคำแนะนำจากแพทย์ ส่วนหนึ่งของการรักษาอาจจะรวมถึงการหลีกเลี่ยงการสัมผัสไข่และผลิตภัณฑ์ที่มีไข่เป็นส่วนผสม เช่น อาหารที่ผลิตมาจากไข่หรือเครื่องปรุงรสที่มีไข่และการป้องกันอาหารเสริมที่อาจมีไข่เป็นส่วนประกอบเข้าสู่ร่างกาย
นอกจากนี้ นายแพทย์อาจแนะนำให้ท่านใช้ยาต้านอัลเลอร์จีนำเข้า (antihistamines) เพื่อช่วยบรรเทาอาการแพ้และลดอาการอักเสบ และยาป้องกันอาการที่รุนแรงมากเช่น อีพีไพนีเฟรน (epinephrine) ที่ใช้ในกรณีฉุกเฉิน
สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรืออาการแพ้ที่รุนแรงมาก อาจต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ในโรงพยาบาลหรือคลินิก เช่น การให้เอพิเนฟรีน (epinephrine) หรือสารลดแล่ที่ในร่างกาย (steroids) เพื่อช่วยควบคุมอาการแพ้ที่รุนแรงและลดความเสี่ยงของอาการฉุกเฉินในอนาคต
สำหรับการรักษาทั่วไป แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายแพทย์อย่างเคร่งครัดและเลี่ยงการสัมผัสกับไข่หรือผลิตภัณฑ์ที่มีไข่อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ควรติดตามอาการและแจ้งให้นายแพทย์ทราบเมื่อมีอาการแพ้เพื่อให้ได้รับการดูแลและรักษาในระยะเร่งด่วนตามที่เห็นสมควรสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ pass4sures.me